ห้อง Cleanroom เป็นพื้นที่ควบคุมสภาพแวดล้อมที่ออกแบบมาเพื่อรองรับกระบวนการที่ต้องการความสะอาดสูง
เช่น การผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และยา แม้จะมีเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปนเปื้อนอย่างเข้มงวด แต่ยังคงมีความเข้าใจผิดหลายอย่างเกี่ยวกับการใช้งาน และการดูแลห้อง Cleanroom ความเข้าใจผิดเหล่านี้อาจนำไปสู่การใช้งานที่ไม่เหมาะสม หรือการลดประสิทธิภาพของห้อง Cleanroom ลง การทำความเข้าใจความจริงเกี่ยวกับห้อง Cleanroom ไม่เพียงช่วยให้ใช้งานได้ถูกต้อง แต่ยังส่งเสริมให้กระบวนการผลิต หรือการทดลองต่าง ๆ ให้ดำเนินไปอย่างราบรื่น บทความนี้จึงมุ่งเน้นการให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อสนับสนุนการใช้งาน Cleanroom อย่างปลอดภัยและถูกต้อง
1. ห้อง Cleanroom ปลอดเชื้อ 100%
แม้ว่าห้อง Cleanroom จะถูกออกแบบมาเพื่อลดจำนวนอนุภาค และควบคุมสภาพแวดล้อมให้สะอาดที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดฝุ่น และเชื้อโรคทั้งหมด การควบคุมคุณภาพอากาศภายในห้องอาศัยการกรองอากาศผ่านตัวกรอง HEPA หรือ ULPA ซึ่งสามารถช่วยลดอนุภาคขนาดเล็กมากได้ แต่ยังมีโอกาสที่เชื้อโรค หรือจุลินทรีย์จะเล็ดลอดเข้ามาได้ การใช้งานห้อง Cleanroom จึงมุ่งเน้นที่การรักษาความสะอาดในระดับที่เหมาะสมกับมาตรฐาน ISO Class ที่กำหนด
2. ทุกห้อง Cleanroom มีมาตรฐานเหมือนกัน
ห้อง Cleanroom มีหลากหลายมาตรฐานตามการใช้งาน เช่น ISO Class 1-9 ซึ่งแต่ละระดับมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันเกี่ยวกับจำนวนอนุภาคในอากาศ ISO Class 1 ใช้ในงานที่ต้องการความสะอาดสูงสุด เช่น การผลิตไมโครชิป ขณะที่ ISO Class 9 ใช้ในงานที่ต้องการการควบคุมขั้นพื้นฐาน เช่น งานบรรจุภัณฑ์ ดังนั้นการเลือกมาตรฐานที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความปลอดภัย และคุณภาพของผลิตภัณฑ์
3. แค่ใส่ชุดป้องกันก็เพียงพอแล้ว
การใส่ชุดป้องกันช่วยลดการปนเปื้อนจากร่างกายผู้ใช้งานได้บางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด บุคลากรในห้อง Cleanroom ยังต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่เข้มงวด เช่น การล้างมือก่อนเข้า การผ่านห้องอาบลมเพื่อลดอนุภาคบนชุด และการเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสมภายในห้อง การละเลยขั้นตอนเหล่านี้อาจเพิ่มความเสี่ยงของการปนเปื้อนและลดประสิทธิภาพของห้อง Cleanroom
4. ควบคุมแค่ฝุ่น และอนุภาคในอากาศเท่านั้น
นอกจากการควบคุมฝุ่น และอนุภาคในอากาศ ห้อง Cleanroom ยังต้องควบคุมปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น อุณหภูมิ ความชื้น และแรงดันอากาศ การควบคุมอุณหภูมิช่วยให้กระบวนการผลิตหรือการวิจัยคงที่ ส่วนความชื้นมีผลต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และวัสดุอื่น ๆ การรักษาสมดุลของแรงดันอากาศยังช่วยป้องกันการแพร่กระจายของอนุภาคระหว่างพื้นที่ได้อีกด้วย
5. ไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาบ่อย
การบำรุงรักษาห้อง Cleanroom เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย ทั้งการตรวจสอบตัวกรอง HEPA หรือ ULPA การทำความสะอาดพื้นผิว และการตรวจเช็คระบบปรับอากาศ หากละเลยการบำรุงรักษา อาจส่งผลให้ภายในห้องสะสมฝุ่น และเชื้อโรคเอาไว้ ซึ่งจะลดประสิทธิภาพในการควบคุมความสะอาด และเพิ่มความเสี่ยงต่อกระบวนการผลิต
6. ใช้อุปกรณ์ใด ๆ ในห้อง Cleanroom ก็ได้
อุปกรณ์ที่นำเข้าไปในห้อง Cleanroom ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด เช่น ต้องไม่ปล่อยฝุ่น หรืออนุภาค และสามารถทนต่อกระบวนการทำความสะอาดได้ วัสดุที่ไม่เหมาะสม เช่น พลาสติกที่แตกหักง่าย ผ้า และกระดาษที่ปล่อยขุยฝุ่น อาจทำให้เกิดการปนเปื้อน และส่งผลกระทบต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการภายในห้อง
7. ห้อง Cleanroom มีค่าใช้จ่ายสูงเสมอ
แม้ห้อง Cleanroom จะดูเหมือนต้องใช้เงินลงทุนสูง แต่ในปัจจุบันก็สามารถออกแบบให้มีต้นทุนเหมาะสมได้ เช่น ห้อง Cleanroom แบบโมดูลาร์ที่ติดตั้งง่าย และสามารถขยายพื้นที่ได้ตามความต้องการ การวางแผนอย่างเหมาะสมจะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยยังคงประสิทธิภาพในการควบคุมสภาพแวดล้อมไว้ได้
8. ทุกคนสามารถเข้าใช้งานได้
การเข้าใช้งานห้อง Cleanroom ต้องผ่านการฝึกอบรม และได้รับอนุญาต การขาดความรู้ และระเบียบวินัยอาจนำอนุภาคหรือเชื้อโรคเข้าสู่พื้นที่ได้ ผู้ใช้งานต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด เช่น สวมชุดป้องกัน ล้างมือ และเคลื่อนย้ายอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการปนเปื้อน
9. ทำความสะอาดด้วยน้ำยาทั่วไปได้
น้ำยาทำความสะอาดทั่วไปไม่เหมาะสำหรับห้อง Cleanroom เพราะอาจปล่อยสารระเหย หรืออนุภาคที่ทำให้เกิดการปนเปื้อน น้ำยาที่ใช้ต้องออกแบบเฉพาะเพื่อลดการปลดปล่อยอนุภาคและไม่ทำลายวัสดุในห้อง Cleanroom การเลือกใช้น้ำยาที่เหมาะสมช่วยรักษาความสะอาดได้อย่างยั่งยืน
10. ห้อง Cleanroom ใช้แค่ในกระบวนการผลิตเท่านั้น
นอกจากการผลิต ห้อง Cleanroom ยังมีบทบาทในงานวิจัย การทดสอบ และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ เช่น การทดลองชีวภาพ การผลิตวัสดุนาโน และการสร้างเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ ความยืดหยุ่นนี้ทำให้ห้อง Cleanroom มีบทบาทสำคัญในหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงงานทางการแพทย์
การเข้าใจความจริงเกี่ยวกับห้อง Cleanroom จะช่วยให้ใช้งานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ การดูแลรักษา การเลือกใช้อุปกรณ์ และการปฏิบัติตามมาตรฐานล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยรักษาความสะอาด และคุณภาพในกระบวนการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง