ห้องคลีนรูม (Cleanroom) เป็นพื้นที่ที่ควบคุมความสะอาดอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ เช่น ฝุ่นละออง แบคทีเรีย หรืออนุภาคขนาดเล็ก เข้ามารบกวนกระบวนการผลิต หรือการทดลองที่ต้องการความแม่นยำสูง ดังนั้น การรักษาความสะอาดและปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดในการปฏิบัติงานในห้องคลีนรูมจึงเป็นสิ่งสำคัญ มาดูกันว่ามีอะไรที่ไม่ควรทำในห้องคลีนรูมบ้าง และปัญหาอะไรที่มักเกิดขึ้นซึ่งส่งผลต่อความสะอาดและประสิทธิภาพของระบบคลีนรูมได้
สิ่งที่ไม่ควรทำในห้องคลีนรูม (Cleanroom)
1. ไม่สวมอุปกรณ์ป้องกันอย่างเหมาะสม การเข้าไปในห้องคลีนรูมโดยไม่สวมชุดป้องกันที่ถูกต้อง เช่น ชุดคลุมป้องกัน หมวกคลุมผม หน้ากากอนามัย หรือถุงมือ เป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้สิ่งปนเปื้อนจากร่างกายเข้าไปในพื้นที่คลีนรูมได้ โดยเฉพาะฝุ่นจากเส้นผม ผิวหนัง หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ติดมากับเสื้อผ้า
2. การเคลื่อนไหวรุนแรง หรือรวดเร็วเกินไปจะทำให้ฝุ่น หรืออนุภาคต่างๆ ลอยขึ้นมาในอากาศมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อระดับความสะอาดของห้องคลีนรูม เพราะฉะนั้นควรเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ และระมัดระวังเสมอเมื่ออยู่ในห้องคลีนรูม
3. นำสิ่งของที่ไม่ได้รับการอนุมัติเข้าไปในห้องคลีนรูม สิ่งของบางอย่างอาจเป็นแหล่งปล่อยอนุภาค หรือฝุ่นละอองได้ เช่น ปากกา สมุด หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หากไม่ได้รับการฆ่าเชื้อ หรือทำความสะอาดก่อน อาจก่อให้เกิดการปนเปื้อนในห้องคลีนรูมได้
4. สัมผัสใบหน้า หรือเส้นผมในขณะที่อยู่ในห้อง ร่างกายมนุษย์เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย และฝุ่นละออง การสัมผัสใบหน้า ผิวหนัง หรือเส้นผมในขณะที่อยู่ในห้องคลีนรูม จะเพิ่มความเสี่ยงในการปนเปื้อนต่ออุปกรณ์ หรือผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในห้อง
5. เปิดประตูห้องคลีนรูมนานเกินไป การเปิดประตูห้องคลีนรูมไว้นานเกินไป จะทำให้อนุภาค และฝุ่นละอองจากภายนอกเข้ามาปนเปื้อนในห้องคลีนรูมได้ง่าย ควรเปิด-ปิดประตูห้องคลีนรูมอย่างรวดเร็ว และปฏิบัติตามขั้นตอนการเข้า-ออกห้องอย่างเคร่งครัด
6. การใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง หรือสเปรย์ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมี หรืออนุภาค เช่น เครื่องสำอาง น้ำหอม หรือสเปรย์ จะทำให้สารเคมีเหล่านี้ปล่อยอนุภาคเข้าสู่บรรยากาศในห้องคลีนรูม ซึ่งเป็นสาเหตุของการปนเปื้อนที่ยากต่อการควบคุม และอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อผลิตภัณฑ์ในห้องคลีนรูมได้
ปัญหาที่มักเกิดขึ้นในห้องคลีนรูม
1. การปนเปื้อนจากบุคลากร (Human Contamination) คนเป็นแหล่งใหญ่ของการปนเปื้อน เช่น ฝุ่นจากผิวหนัง เส้นผม น้ำมันจากผิว หรือแบคทีเรีย การขาดการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย เช่น ไม่สวมชุดป้องกันอย่างถูกต้อง หรือการเคลื่อนไหวที่ไม่ระมัดระวัง ทำให้เกิดการปนเปื้อนในห้องคลีนรูมได้ง่าย
2. การปนเปื้อนจากเครื่องมือ และอุปกรณ์ (Equipment Contamination) อุปกรณ์และเครื่องมือที่ไม่ได้รับการทำความสะอาด หรือฆ่าเชื้ออย่างถูกวิธี อาจนำพาสิ่งปนเปื้อนเข้าสู่ห้องคลีนรูมได้ การเลือกใช้อุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสมกับการทำงานในคลีนรูม เช่น อุปกรณ์ที่สร้างฝุ่นหรืออนุภาคขนาดเล็ก ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
3. การควบคุมความชื้น และอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม การควบคุมสภาพแวดล้อมภายในห้องคลีนรูม เช่น ความชื้น และอุณหภูมิ หากไม่เป็นไปตามมาตรฐาน จะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรคหรือการสะสมของฝุ่นละอองได้ ความชื้นที่สูงเกินไปจะทำให้เกิดการเกาะติดของอนุภาคฝุ่นมากขึ้น
4. ระบบระบายอากาศ และกรองอากาศทำงานผิดปกติ ระบบกรองอากาศ HEPA และระบบระบายอากาศที่ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ จะทำให้อนุภาคที่ควรกรองออกไปไม่ถูกกำจัดอย่างเหมาะสม ส่งผลต่อระดับความสะอาดของห้องคลีนรูม
5. การเข้าออกห้องคลีนรูมโดยไม่ผ่านขั้นตอนที่ถูกต้อง ห้องคลีนรูมมักมีกระบวนการเข้า-ออกที่ซับซ้อน เช่น การผ่านห้องอาบลม หรือห้องเปลี่ยนชุด หากบุคลากรไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้ การปนเปื้อนจากภายนอกจะเข้าสู่ห้องคลีนรูมได้ง่าย
เพราะฉะนั้นการดูแลห้องคลีนรูมให้มีความสะอาดตามมาตรฐานจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดการปนเปื้อน บุคลากรทุกคนที่ปฏิบัติงานในห้องคลีนรูมต้องเข้าใจถึงความสำคัญของการรักษาความสะอาด และปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและรักษาประสิทธิภาพในการทำงานของห้องคลีนรูมได้อย่างยั่งยืน